เมื่อไม่นานมานี้ Apple ได้ทำการอัพเดท MacBook Pro รุ่นขนาด 13 นิ้วและ 15 นิ้ว ด้วยชิปรุ่นใหม่ล่าสุดIntel Core i9, แรมขนาด 32 GB และ SSD ขนาด 4TB ซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนนี้ ในราคาเริ่มต้นเท่าเดิม ไม่มีถูกหรือแพงขึ้นแต่อย่างใด (ราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท สำหรับรุ่น 13 นิ้ว และ 85,900 บาท สำหรับรุ่น 15 นิ้ว) แต่สำหรับใครที่ต้องการความแรงขั้นเทพ อยากจะปรับแต่งสเปคเพิ่มเติมจากโรงงาน (CTO) คราวนี้ต้องบอกว่าเป็นการทุบสถิติใหม่ของราคากันเลยทีเดียว เพราะด้วยสเปคปรับแต่งของ MacBook Pro (2018) รุ่น 15 นิ้ว จะทำให้ราคาเครื่องนั้นพุ่งสูงถึง 6,699 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว! (ส่วนราคาในไทยจะเป็นเท่าไหร่ต้องติดตามกันต่อไป) ด้วยราคาที่สูงที่สุด เป็นอันดับหนึ่งจากทุกผลิตภัณฑ์ของ Apple สเปคที่ได้ก็ต้องไม่ธรรมดาเช่นกัน สิ่งที่คุณจะได้รับ คือ โปรเซสเซอร์ Intel Core i9 เจเนอเรชั่น 8 แบบ 6-core ความเร็ว 2.9GHz…

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของ Apple ได้มีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับ Hybrid iOS และ Mac มีการศึกษาพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าวไปจนถึงขั้นตอนการยื่นสิทธิบัตรเกี่ยวกับ iMac ที่มีจอสัมผัส เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น Tim Cook เคยกล่าวไว้ว่า อุปกรณ์ไฮบริดนั้นสร้างความเสี่ยงให้กับผู้บริโภค ที่จะต้องเจอกับ UX (User Experience) ที่มีหน้าตาไม่ได้มาตรฐาน “ดังนั้นเราจึงต้องการสร้างแท็บเล็ตและ Mac ที่ดีที่สุดในโลก และจะต้องทำให้ได้ทั้งคู่ไม่ใช่แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง” แต่เมื่อปีที่แล้ว Phil Schiller ก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากทำเครื่อง Macs ที่มีระบบสัมผัส ผู้ใช้ก็จะเจอปัญหาด้าน UX ที่ค่อนข้างแย่  “เราใช้เวลาหลายปีเฝ้าติดตาม และสรุปได้ว่าเพื่อให้ได้ PC ที่ดีที่สุด คุณไม่สามารถเปลี่ยน MacOS ให้กลายเป็น iPhone ได้ แล้วก็ไม่สามารถเปลี่ยน iOS เป็น Mac ได้เช่นกัน ดังนั้นแต่ละอย่างจะดีที่สุดในแบบที่มันควรเป็น และเราจะเพิ่มเติมสิ่งที่เหมาะสมกับแต่ละอย่างแบบแยกจากกัน” อย่างไรก็ตาม หาก Apple…